Secret2Rich

วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

หลักการซื้อขาย Forex เบื้องต้น


หลักการซื้อขาย Forex เบื้องต้น

เริ่มแรกเลยให้ท่านเลือกสกุลเงินที่ต้องการเทรด และทำการวิเคราะห์ว่าราคาในอนาคตจะเป็นอย่างไร
  • ถ้าท่านคิดว่าราคาในอนาคตจะมากกว่าราคาปัจจุบัน ให้ท่านทำการซื้อ (buy)
  • ถ้าท่านคิดว่าราคาในอนาคตจะน้อยกว่าราคาปัจจุบัน ให้ท่านทำการขาย (sell)



Pip
หน่วยของราคาในสกุลเงินต่างๆเราจะเรียกว่า Pip ซึ่ง Pip คือจำนวนจุดที่น้อยที่สุดของคู่เงินนั้นๆ
  • ตัวอย่าง ราคาของคู่ EUR/USD มีทศนิยม 4 จุด เช่น 1.1162 เพราะฉะนั้น 1 pip ก็จะมีค่าเท่ากับ 0.0001 ถ้าราคาวิ่งจาก 1.1162 ไป 1.1172 หมายความว่าราคามีการวิ่งไป 10 pip 
  • ตัวอย่าง ราคาของคู่ GBP/USD มีทศนิยม จุด เช่น 1.5727 เพราะฉะนั้น 1 pip ก็จะมีค่าเท่ากับ 0.0001 ถ้าราคาวิ่งจาก 1.5727 ไป 1.5737 หมายความว่าราคามีการวิ่งไป 10 pip


ราคา Bid & Ask

     ในการเทรด Forex แต่ละสกุลเงินจะมีราคาแสดงอยู่ 2 ราคาด้วยกัน คือราคา Bid และ ราคา Ask เราสามารถดูราคานี้ได้ใน
โปรแกรมเทรด cTrader ดังรูป
  • เวลาเราทำการเปิดออเดอร์ซื้อ (buy) เราจะได้ที่ราคา Ask ส่วนเวลาปิดออเดอร์จะได้ที่ราคา Bid
  • เวลาเราทำการเปิดออเดอร์ขาย (sell) เราจะได้ที่ราคา Bid ส่วนเวลาปิดออเดอร์จะได้ที่ราคา Bid



สามารถดูค่า Bid และ Ask จากบนกราฟได้





Spread

  Spread คือผลต่างของราคา Bid และ ราคา Ask



  • จากรูป ราคา Bid ของ EUR/USDเป็น 1.1162 ราคา Ask เป็น 1.1174 ดังนั้น Spread เท่ากับผลต่างของ 2 ค่านี้คือ 0.0012 หรือ 12 pip 
  • ซึ่ง Spread ก็เปรียบเสมือนกับค่าธรรมเนียมของโบรกเกอร์ที่คิดกับเรานั่นเอง ยิ่งน้อยยิ่งดี
Lot

    ขนาดของสัญญาที่เราทำการซื้อขายกันนั้นเรียกว่า lot  ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะเทรดที่ lot เท่าไหร่ในช่อง Quantity 
ของโปรแกรม cTrader ดังรูป



โดยถ้าเราใส่จำนวน Lot มาก เวลาราคามีการขึ้นหรือลง เราก็จะได้กำไรหรือขาดทุนเพิ่มขึ้นไปด้วยเช่นกัน 
             
Margin

        Margin เปรียบเสมือนกับค่ามัดจำที่เราต้องใช้ในการเปิดออเดอร์แต่ละครั้ง และก็จะเพิ่มกลับเข้าไปในบัญชีเหมือนเดิมเมื่อทำการปิดออเดอร์ ยิ่งใส่จำนวน lot ในการเปิดออเดอร์มากเท่าไหร่ จำนวน Margin ที่ใช้ก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น

แล้ว Margin มีความสำคัญอย่างไร?
ถ้าท่านไม่คอยดูค่า Margin ให้ดี ออเดอร์ของท่านอาจจะถูกปิดอัตโนมัติได้ ตัวอย่างเช่น เมื่อท่านมีการเปิดออเดอร์ ในโปรแกรม MT4 จะมีค่าแสดงให้ท่านดูดังนี้


  • Balance แสดงยอดเงินที่ยังไม่รวมกำไรหรือขาดทุนของออเดอร์ที่กำลังเปิดอยู่
  • Equity แสดงยอดเงินที่รวมกำไรหรือขาดทุนของออเดอร์ที่กำลังเปิดอยู่
  • Margin แสดงจำนวน Margin ทั้งหมดที่ใช้ไปในการเปิดออเดอร์
  • Free Margin มีค่าเท่ากับ Equity - Margin
  • Margin Level มีค่าเท่ากับ Equity / Margin * 100

     ซึ่งแต่ละโบรกเกอร์ก็จะมีเงื่อนไขไว้อยู่ว่า ถ้า Margin Level เหลือน้อยกว่าค่าใดออเดอร์จะถูกปิดอัตโนมัติ ค่านี้เรียกว่า Stop Out Level นั่นหมายความว่าออเดอร์จะมีโอกาสถูกปิดอัตโนมัติเมื่อ  ท่านเปิดออเดอร์โดยใส่ lot     มากเกินไป ทำให้ Margin Level เหลือน้อย (จากสูตร Margin Level = Equity / Margin * 100) ยิ่ง Margin มาก Margin Level ยิ่งน้อย
    ท่านขาดทุนมากเกินไปทำให้ Equity เหลือน้อย (ยิ่ง Equity น้อย Margin level ยิ่งน้อย)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น