เทรด Forex แค่ 1 ชั่วโมงต่อวัน ก็รวยได้

เทรด Forex แค่ 1 ชั่วโมงต่อวัน ก็รวยได้

                จากคำถามที่ว่า “ นั่งเทรด Forex ทั้งวันรึเปล่า แล้วเทรดช่วงไหนดีที่สุด “  เราเรียกระบบนี้ว่า “ Just a Hour Per Day “ คือเทรด Forex แค่วันละ 1 ชั่วโมงต่อวัน ก็รวยได้ ผลออกมาดีกว่าการนั่งเฝ้าหน้าจอเป็นอย่างมาก เราเทรดตั้งแต่ตลาด Euro เปิดไปจนถึงเวลาที่ตลาด London เปิด ซึ่งเป็นเวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมง ตลาดช่วงนี้ไม่วิ่งเร็วมาก แต่ก็ขยับตัวมากกว่าช่วง Asian Session นักเทรด Forex ส่วนใหญ่ชอบแนะนำให้เทรดช่วงตลาดคาบเกี่ยวกันระหว่าง London กับ America ซึ่งวิ่งเร็วมาก เราไม่แนะนำสำหรับนักเทรดหน้าใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์เพียงพอ ซึ่งยังต้องใช้เวลาเก็บเกี่ยวประสบการณ์อีกมาก ถ้าคุณยังไม่มีระบบการเข้าออกที่ชัดเจน คุณจะอยู่ในสภาวะเดี๋ยวเข้า เดี๋ยวออก ผลออกมาก็คือออกตอนที่ติดลบตลอดเวลา เพราะจิตวิทยาคุณยังไม่ดีพอ สามารถแก้ไขได้ด้วยการมีระบบเทรดที่คุณเชื่อมั่นและศรัทธามันจริงๆ


Cr.www.forexheng.com

ฝึกตนให้คุ้นชินกับการสูญเสียเล็กๆน้อยๆ ในตลาด Forex

ฝึกตนให้คุ้นชินกับการสูญเสียเล็กๆน้อยๆ ในตลาด Forex

                มันคงจะเป็นการยากที่จะยอมรับว่า เรากำลังเป็นผู้แพ้และสูญเสียเงินให้กับตลาด Forex อยู่ แต่ทว่านักเทรด Forex ท่านใด ปฏิเสธความจริงในข้อนี้แล้วละก็ ความสูญเสียครั้งใหญ่กับบัญชีเทรดของคุณกำลังจะตามมา การสูญเสียเล็กๆน้อยๆ เป็นส่วนหนึ่งในเกมส์Forexนี้ จงคิดไว้เสมอว่าการตัดขาดทุน (Forex Cut Loss) ที่รวดเร็ว จะช่วยให้คุณรอดพ้นจากกับดักในตลาด Forex นี้ได้ ซึ่งในบางครั้งสามารถลากคุณขาดทุนหรือกำไรในชั่วพริบตา แต่ส่วนใหญ่จะทำให้คุณขาดทุนซะมากกว่า

                นักเทรด Forex ที่ดี เมื่อรู้ว่าตัวเองอยู่ผิดที่ผิดทาง จะรีบตัดขาดทุนแล้วออกจากตลาดทันทีอย่างไม่ลังเลใจแม้แต่นิดเดียว และในบางครั้ง อาจจะต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก คือการขาดทุนติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง ถ้าหากใจไม่นิ่งอาจถึงขั้นกลัวตลาด Forex ไม่กล้าเปิด Order เลยก็เป็นได้

                ขอให้พยายามมองเรื่องของการสูญเสียเป็นเรื่องธรรมดา ฝึกฝนทำให้คุ้นชิน เพราะไม่มีระบบเทรดForexใด ที่สามารถเอาชนะตลาดได้ 100% และตลอดเวลา คำแนะนำเดียวที่อยากจะฝากไว้ก็คือ “เวลาอยู่ในช่วงขาดทุนติดต่อกัน ให้ออกจากตลาดทันที อย่างลังเล อย่าวาดความหวังจนเป็นความฝัน”

                คุณอาจจะเคยได้ยินคำว่า “Let Profit Run” นี่แหละคือหัวใจสำคัญที่ทำให้เราสู้กับตลาด Forex ได้ในยามที่เป็นวันของเรา เวลาขาดทุนขอให้ขาดทุนน้อยๆ แต่เวลาที่อยู่ถูกที่ถูกทางขอให้เอามันเยอะๆ อย่าเห็นแก่กำไรเล็กๆน้อยๆ แล้วออกจากตลาด แล้วก็กลับมาเสียครั้งละมากๆอยู่ดี ซึ่งคนส่วนใหญ่เป็นกันหมด


Cr.www.forexheng.com

นักเทรด Forex ผู้ไร้ซึ่งความเสี่ยง (Risk Free Forex Trader)

นักเทรด Forex ผู้ไร้ซึ่งความเสี่ยง (Risk Free Forex Trader)

มีระบบเทรดให้เลือก 2 ระบบ ระหว่างระบบเทรด Forex ที่มีความเสี่ยง กับระบบเทรดไร้ซึ่งความเสี่ยง ทุกคนคงทราบคำตอบดีอยู่แล้วว่า ใครๆก็ต้องเลือกระบบเทรด Forex อย่างหลังเป็นแน่นอน คงไม่มีใครอยากจะเอาเงินที่เก็บออมอย่างยาวนานและยากลำบาก มาเสี่ยงกับตลาด Forex แต่ข่าวร้ายก็คือ ระบบเทรดที่สองมีเพียงเฉพาะในความฝันเท่านั้น คนที่ไม่ชอบความเสี่ยงหรือยอมรับกับความเสี่ยงไม่ได้เลย ขอให้ล้มเลิกความคิดที่จะเป็น Forex Trader ไปได้เลย ทางที่ดีให้นำเงินที่มีอยู่ไปฝากธนาคารกินดอกเบี้ย เพื่อความสบายใจของตนเองและครอบครัวจะดีกว่า

                ตลาด Forex เป็นตลาดที่มีความเสี่ยงสูงมากกว่าตลาดทั่วไป รวมถึงตลาดหุ้นด้วย อัตราแลกเปลี่ยนเคลื่อนที่ราวกับรถไฟเหาะตีลังกา คนไหนหัวใจไม่ดี มีสิทธิ์หัวใจวายเอาง่ายๆ ถ้าไม่รักความเสี่ยงจริง ขอให้ถอยห่างจะเป็นการดีกว่า วันนี้พวกเราโชคดี นั่นก็คือเราสามารถควบคุมความเสี่ยงได้ด้วยความรู้เรื่อง การบริหารจัดการเงินในบัญชีเทรด Forex (Money Management of Forex)


Cr.www.forexheng.com

3 สิ่งที่ผิดพลาดเป็นประจำ ของ Forex เทรดเดอร์ผู้ล้มเหลว

3 สิ่งที่ผิดพลาดเป็นประจำ ของ Forex เทรดเดอร์ผู้ล้มเหลว

หากคุณเทรด Forex มาสักระยะหนึ่ง คุณจะเริ่มเรียนรู้ว่า 95% ของนักเทรด Forex คือคนที่เสียเงิน หรือเป็นผู้แพ้ในตลาด Forex และส่วนใหญ่จะเลิกเล่น อีกทั้งหันหลังให้ตลาด Forex ไปเลยภายในเวลา 2 ปี แล้วจะทำอย่างไร คุณถึงจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของคน 5% ที่ประสบความสำเร็จใน Forex Markets ได้ หลักการคิดพื้นฐานของเหล่าปรมาจารย์ Forex ที่ใช้เตือนตนเองอยู่เสมอ ว่าอย่าได้คิดที่จะกระทำ สรุปสั้นๆเพียง 3 ข้อดังนี้

1.       การเทรด Forex ตอนมีข่าวสำคัญ – ไม่ควรเทรด Forex ในช่วงที่มีข่าวสำคัญ เพราะช่วงนี้จะเป็นช่วงที่อัตราแลกเปลี่ยนวิ่งเร็วมาก อาจทำให้เงินในบัญชีของคุณไม่พอและถูก Forex โบรกเกอร์ปิด Order ซื้อขาย การเล่นช่วงข่าวสำคัญหากไม่มีการวิเคราะห์ข่าวก่อนเล่นก็ไม่ต่างอะไรกับการเสี่ยงโชคเลย นักเทรด Forex ที่ประสบความสำเร็จ จะไม่ยอมเอาเงินในบัญชีทั้งหมดของเขาไปผูกไว้กับเรื่องโชคลางเด็ดขาด

2.       การตั้ง Forex Stoploss สั้นเกินไป – ความผิดพลาดที่เห็นเป็นประจำสำหรับนักเทรด Forex ที่ยังไม่ประสบความสำเร็จ คือการตั้งค่า Stoploss หรือจุดตัดขาดทุนสั้นหรือน้อยจนเกินไป ตลาด Forex เป็นตลาดที่มีการแกว่งตัวมาก อัตราแลกเปลี่ยนขึ้นลงวันหนึ่งเป็น 100 pips และบางครั้งเป็น 1,000 pips ภายในเวลาเพียง 1 วัน ก็เคยมีมาแล้ว  การตั้งจุดตัดขาดทุนสั้นเกินไป ก็เปรียบเสมือนคนกล้าได้แต่ไม่กล้าเสีย คุณควรขยายจุดตัดขาดทุนให้สมเหตุสมผลกับคู่อัตราแลกเปลี่ยนที่คุณกำลังเทรดอยู่

3.       การขาดวินัยไม่ทำตามระบบที่วางไว้ – เป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ที่จะนำเอาอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจกระทำสิ่งต่างๆ รวมถึง Forex ด้วย ในบางครั้งอัตราแลกเปลี่ยนยังมีแนวโน้มที่จะไปต่อได้อีกยาว แต่คุณอาจรู้สึกกลัวว่าจะเสียกำไรส่วนนี้ เกิดภาพว่าอัตราแลกเปลี่ยนจะล่วงลงอย่างทันทีทันใดในอนาคตอันใกล้นี้ ไม่ทำตามระบบที่วางไว้ ทำการปิด Order ก่อนเป้าหมายราคาที่ได้ตั้งไว้ อย่างนี้เรียกว่าขาดวินัยในการเทรด Forex ในทางกลับกัน หากคุณอยู่ในสถานการณ์ที่ติดลบอย่างมาก ตลาดวิ่งสวนทางกับ Order คุณเกิดรู้สึกเสียดายเงินและไม่อยากเป็นผู้สูญเสียขึ้นมา ตัดสินใจขยายจุดตัดขาดทุนออกไปจากเดิมที่ได้ตั้งไว้ อย่างนี้ก็เรียกว่าขาดซึ่งวินัยในการเทรด ไม่ควรกระทำ

ทั้งหมดที่กล่าวมาก็คือ 3 สิ่งที่นักเทรด Forex ผู้ไม่เคยพบกับคำว่าประสบความสำเร็จทำผิดพลาดอยู่เป็นประจำ

แนะนำเทคนิคการประยุกต์ใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่กับตลาด Forex

แนะนำเทคนิคการประยุกต์ใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่กับตลาด Forex

แนะนำเทคนิควิธีการใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ หรือ MA กับตลาด Forex ในระดับเบื้องต้น ดังต่อไปนี้

                1.หาแนวโน้มของตลาดจากการเรียงตัวของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ตั้งแต่ 2 เส้นขึ้นไป เช่น สมมุติว่า คุณกำลังเทรด GBP/USD ด้วยเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทั้งหมด 4 เส้น ดังนี้ SMA5 , SMA20 , SMA50 และ SMA100 จะพิจารณาเป็นตลาดขาขึ้นก็ต่อเมื่อ เส้นค่าเฉลี่ยทั้ง 4 เส้นเรียงตัวจากล่างขึ้นบนเป็น SMA100 , SMA50, SMA20 และ SMA5 ตามลำดับ ให้ทำการเข้าซื้อ GBP/USD ทันที ในทางกลับกัน หากเส้นค่าเฉลี่ยทั้ง 4 เส้นเรียงตัวจากล่างขึ้นบนเป็น SMA5 , SMA20 , SMA50 และ SMA100 ตามลำดับ จะพิจารณาเป็นขาลงของตลาด Forex ให้ทำการขายออก GBP/USD ทันที หากเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ไม่เรียงกันตามที่ได้กล่าวมาแล้ว จะเป็นการแสดงว่าตลาด Forex ยังอยู่ในช่วงไม่มีแนวโน้มที่ชัดเจน สมควรออกจากตลาดชั่วคราว

                2.การตัดกันของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average Crossover) คือการใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 2 เส้นในการระบุแนวโน้ม โดยดูสัญญาณการซื้อขายจากการตัดกันของเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ ที่มีจำนวนข้อมูลที่แตกต่างกัน เช่น สมมติคุณกำลังเทรด EUR/USD ด้วยเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (MA) 2 เส้น คือ SMA50 กับ SMA100 จะพิจารณาเป็นตลาดขาขึ้นเมื่อเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทั้งสองตัดกันโดยเส้น SMA50 อยู่เหนือเส้น SMA100 ให้ทำการเข้าซื้อ EUR/USD ทันที ในทางกลับกันจะพิจารณาเป็นตลาดขาลงก็ต่อเมื่อเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทั้งสองตัดกันโดยเส้น SMA100 อยู่เหนือเส้น SMA50 ให้ทำการขาย EUR/USD ทันที

อย่างไรก็ตาม ยังมีวิธีการประยุกต์ใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ในอีกหลายรูปแบบ ซึ่งเป็นระดับที่สูง  ก็ขอให้ศึกษาและเรียนรู้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เพิ่มเติม จนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ปรับปรุงระบบเทรด Forex ของตนเองต่อไปได้


Cr.www.forexheng.com

เทคนิคการดูความสอดคล้องของกราฟ Multiple Time Frame

เทคนิคการดูความสอดคล้องของกราฟ Multiple Time Frame

                เทคนิคการเทรดตลาด Forex อย่างง่ายแต่ทำเงินได้เรื่อยๆ ไม่ยุ่งยาก ไม่ซับซ้อน แต่อาศัยความอดทนและใจเย็นเป็นสำคัญ เรียกว่า เทคนิคการดูความสอดคล้องของกราฟในหลาย Time Frame โดยดูความสัมพันธ์จาก Time Frame ที่สูงที่สุดที่สนใจจนมาถึง Time Frame ที่เล็กที่สุดที่สนใจ ยกตัวอย่างเช่น ใช้ 4 Time Frame 15min, H1, H4 และ Day บวกกับเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ EMA18 ในการยืนยันสัญญาณเข้าเทรด หลักการตัดสินในการเข้าเทรดตามโมเดลนี้ก็คือ จะเปิด BUY ก็ต่อเมื่อ ราคาในแต่ละ Time Frame สามารถปิดเหนือเส้น EMA18 ขึ้นไปได้ นั่นเป็นการแสดงให้เห็นว่าตลาดเริ่มเป็นขาขึ้น Bullish Market และในทางกลับกัน จะเปิด SELL ก็ต่อเมื่อ ราคาในแต่ละ Time Frame สามารถปิดต่ำกว่าเส้น EMA18 ลงไปได้ นั่นเป็นการแสดงให้เห็นว่าตลาดเริ่มเป็นขาลง Bearish Market

                ทำไมถึงต้องดูความสอดคล้องของกราฟในหลาย Time Frame ก็เพราะว่าเราจะได้ไม่เทรดสวนเทรนด์ สำหรับ Forex เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ในการเทรด Forex ยังไม่มากพอ ไม่แนะนำให้เล่น Counter Trend เพราะเสี่ยงต่อการเสียหนักอย่างมากถึงมากที่สุด ถ้ายังไม่มีระบบเทรดที่ดีพอ 

Cr.www.forexheng.com

ระบุแนวโน้มทิศทางตลาด Forex ด้วยค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ MA

ระบุแนวโน้มทิศทางตลาด Forex ด้วยค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ MA

                ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) ถูกใช้มาตั้งแต่เริ่มมีการวิเคราะห์ทางเทคนิคเกิดขึ้นบนโลก และอาจจะเป็นการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ยังคงมีความนิยมมากที่สุดตั้งแต่ในอดีตจนมาถึงปัจจุบัน ตลาด Forex ก็เช่นเดียวกัน ไม่สามารถหลุดรอดจากเงื้อมมือของเจ้าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ตัวนี้ไปได้ ในส่วนนี้เรามาทำความรู้จักค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่(MA) เพิ่มเติมกันว่ามัน คืออะไร และใช้อย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด

                ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ของ Forex (Forex Moving Averages) คือการนำเอาข้อมูลของอัตราแลกเปลี่ยนในอดีต ณ ช่วงเวลาหนึ่งๆ มาคำนวณหาค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ โดยอาจใช้ข้อมูลจากราคาปิด ราคาเปิด ราคาสูงสุด ราคาต่ำสุด หรือแม้กระทั่งนำเอาค่าดัชนีบ่งชี้ (Forex Indicator) มาคำนวณหาค่าเฉลี่ยก็ย่อมทำได้ การคำนวณค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ มีการปรับปรุงอย่างมากมายในประมาณว่าคิดต่อกันไปเรื่อยๆ ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ ที่ยังเห็นนิยมใช้กันอยู่ในตลาด Forex มีดังนี้

1. Simple Moving Average (SMA)

2. Exponential Moving Average (EMA)

3. Double Exponential Moving Average (DEMA)

4. Triple Exponential Moving Average (TEMA)

5. Weighted Moving Average (WMA)                                                                                   

 และอื่นๆ อีกมากมาย

                ตลาด Forex ในปัจจุบัน มักจะพบเห็นการเรียนการสอนกันอยู่เพียงสองชนิดคือ Simple Moving Average (SMA) กับ Exponential Moving Average (EMA) ดังนั้นจึงจะขออธิบายขยายความเพิ่มเติมให้เข้าใจมากขึ้นกับสองชนิดนี้ เพราะเมื่อเข้าใจแล้วจะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ต่อได้เอง

                Simple Moving Average (SMA) คือ การคำนวณหาค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่าย โดยนำเอาผลรวมของราคาอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงที่กำหนด จากนั้นนำมาหารด้วยจำนวนข้อมูลของอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงที่กำหนด โดยให้น้ำหนักข้อมูลของราคาอัตราแลกเปลี่ยนในแต่ละข้อมูลเท่ากัน คือไม่มีข้อมูลอันไหนสำคัญไปกว่ากันนั่นเอง

                ยกตัวอย่างเช่น เราเทรด EUR/USD ช่วงข้อมูลที่เราสนใจคือ 5 วัน เราจะสามารถคำนวณหาค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่าย (SMA) ได้ดังนี้

SMA = (ผลรวมของราคาอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงที่กำหนด) / จำนวนข้อมูลที่นำมาวิเคราะห์ในช่วงที่กำหนด

SMA = (EUR1+ EUR2+ EUR3+ EUR4+ EUR5) / 5

                Exponential Moving Average (EMA) คือ การคำนวณหาค่าเฉลี่ยของราคาอัตราแลกเปลี่ยน โดยมีการถ่วงน้ำหนักข้อมูลที่ใกล้กับปัจจุบันมากที่สุด หมายความว่าข้อมูลยิ่งเก่ายิ่งให้ความสำคัญลดลงไป โดยค่าเฉลี่ยตัวนี้เรียกว่าการคำนวณหาค่าเฉลี่ยอย่างยาก เพราะยากที่จะมานั่งคำนวณด้วยมือ ซึ่งเป็นที่นิยมในสมัยก่อน แต่ในปัจจุบันเรามีระบบคอมพิวเตอร์ จึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป 

                                                                                   

วิธีการคำนวณเบื้องต้น

EMA (วันปัจจุบัน) = EMA (วันก่อน) + Multiplier x (ราคาปิดปัจจุบัน – (EMA (วันก่อน)))

Multiplier = ค่าตัวคูณปรับความเรียบ = 2 / (จำนวนวัน + 1)

EMA (วันก่อน) = SMA


Cr.www.forexheng.com